“รวดเร็วเพื่อผู้โดยสาร เสียวสะท้านย่านลาดพร้าว วิ่งยาวถึงสะพานพุทธ เร็วรี่เหมือนกู้ภัย ตะโกนไล่ให้คันอื่นหลบ สยบทุกแว้น ตีโค้งแล่นรอบอนุสาวรีย์ชัยฯ ไม่ถึงป้ายประตูเปิด วิ่งเตลิดแถวเซ็นลาดฯ ขับปาดรถตำรวจ มีด่านตรวจไม่ต้องจอด…9 บาทตลอดสายไม่จ่ายมึงลง!” คำขวัญประจำสายรถเมล์ในตำนานที่ถูกกล่าวขานมากที่สุด
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ลงพื้นที่พูดคุยกับ เสนาะ ด้วงสำรวย คนขับรถเมล์สาย 8 อายุ 42 ปี ที่มีประสบกาณ์งานขับรถเมล์มาไม่ต่ำกว่า 10 ปี พร้อมกับ เกศรินทร์ ด้วงสำรวย กระเป๋ารถเมล์คู่ใจ อายุ 50 ปี เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสายรถเมล์ที่เหล่าผู้โดยสารยกให้เป็นแชมป์ขับรถสะวี้ดสะว้าดหวาดเสียวที่สุดในกรุงเทพฯ แม้ว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาข่าวคาว หรือบทความต่างๆ อาจเสนอมุมมองแย่ๆ เกี่ยวกับรถเมล์สาย 8 แต่งานนี้เราจะพาคุณไปส่องแง่มุมดีๆ ที่คุณอาจจะยังไม่เคยรู้ แต่ถ้ารู้เมื่อไหร่ เชื่อได้ว่าทัศนคติที่คุณมีต่อรถเมล์สายนี้จะเป็นไปในทางที่ดีขึ้นแน่ๆ
เกศรินทร์ ด้วงสำรวย กระเป๋ารถเมล์ และฐานะภรรยาสุดที่รักของโชเฟอร์เสนาะ
เจาะข้อสงสัยยอดฮิต! ขับเร็ว วิ่งเลนนอก ครองแชมป์แย่
เสนาะ คนขับรถเมล์ สาย 8 รุ่นใหญ่ประสบการณ์เก๋า แจกแจงคำถามสุดสงสัยถึงสาเหตุที่รถเมล์สาย 8 ขับเร็วจี๋ โดย เสนาะ ขอตอบเป็นข้อเล่าทีละเรื่อง ดังต่อไปนี้
จะรีบเร่งไปไหนกัน : หากจะพูดกันอย่างตรงไปตรงมาแล้ว คนขับรถเมล์ทุกคนต่างมีจุดประสงค์เดียวกัน คือ รีบวิ่งไปรับคนข้างหน้า แต่ด้วยคู่แข่งที่วิ่งชิดติดท้ายอยู่ไม่ห่าง รถเมล์สายเดียวกันคันข้างหน้าก็อยู่แค่คืบ เพราะฉะนั้น จึงเป็นเหตุให้คนขับรถเมล์ต้องทำความเร็ว เพื่อจะเข้าไปแย่งชิงผู้โดยสารที่รออยู่เบื้องหน้า และนี่จึงเป็นที่มาของคำถามฮิต สาย 8 ทำไมถึงขับเร็วนัก
“แค่ขับแซงคันข้างหน้า ก็ดูเหมือนเร็วแล้ว แต่บางทีเราก็แค่ขับแซงในระยะไม่ไกลนัก เพื่อไปรับคนป้ายข้างหน้าที่รอจะขึ้นอยู่จำนวนมาก หากโดนคันอื่นๆ เขาแย่งรับผู้โดยสารหมด แล้ววันนี้จะเอาอะไรกิน”คนขับรถเมล์สาย 8 ตัดพ้อ
เสนาะ ด้วงสำรวย คนขับรถเมล์สาย 8
ลักไก่ วิ่งแล่นอยู่เลนนอกสุด : บ่อยครั้งเราอาจจะเห็นภาพข่าวปรากฏบนหน้าหนังสือพิมพ์ หรือตามอินเทอร์เน็ตโดยทั่วไป คือ ภาพรถเมล์สาย 8 วิ่งอยู่ในเลนที่ 3 ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎจราจร เพราะรถเมล์ไม่ว่าจะสายใดๆ ก็ตาม จะต้องวิ่งเลนเดียว คือ เลนซ้าย แต่ด้วยความที่รถให้บริการสาธารณะไม่ได้มีเพียงแค่รถเมล์เท่านั้น แต่ยังมีรถแท็กซี่ รถตู้จำนวนมากจอดแช่อยู่ในเลนซ้าย คนขับรถเมล์บางคนจึงอาจมองว่า หากรออยู่เช่นนี้อาจทำให้ผู้โดยสารเสียเวลานาน ดีไม่ดี อาจรอนานถึงครึ่งชั่วโมง ทั้งๆ ที่ป้ายต่อไปอยู่ตรงหน้าแล้ว คนขับจึงเลือกที่จะแซงไปที่เลน 2-4 เพื่อรับส่งผู้โดยสาร
เมื่อรถขวาง หรือจอดแช่อยู่นาน โชเฟอร์ให้เหตุผลว่า มีความจำเป็นต้องเข้าเลน 2 เพื่อแซง
รักษาแชมป์รถเมล์ยอดแย่ : คนเรามีทั้งดีและร้ายปะปนกันไป เฉกเช่นเดียวกับคนขับรถเมล์สาย 8 ที่มีอยู่หลายร้อยคน แน่นอนว่า ใน 100 คน ย่อมมีทั้งคนดีและร้าย ซึ่งในความป็นจริง คนร้ายๆ มีจำนวนมากกว่าคนดี เพราะฉะนั้น จึงเป็นที่มาของเหตุการณ์รถเมล์สาย 8 ขับฉวัดเฉวียน แต่มิใช่ว่า คนขับรถเมล์สาย 8 จะไม่มีคนดีเลย ที่นี่ยังมีคนดี คนใจเย็น และเป็นห่วงผู้โดยสารอยู่อีกก็หลายคน
เสนาะ คนขับรถเมล์ รุ่นเก๋า เผยถึงสาเหตุที่สาย 8 สามารถครองแชมป์รถเมล์ยอดแย่ ว่า “ด้วยความที่คนขับรถเมล์และกระเป๋า กินเปอร์เซ็นต์รายได้จากการเก็บค่าโดยสาร เพราะฉะนั้น การแย่งชิงผู้โดยสารระหว่างรถเมล์สายเดียวกัน ก็จะมีให้เห็นเรื่อยๆ แต่เชื่อได้ว่า ไม่มีคนขับรถเมล์คนไหน อยากขับเร็วเพื่อความสะใจ แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นจากความจำเป็นทั้งสิ้น”
ลุงคนขับ เปิดใจทุกเรื่องราว
เปิดกระเป๋าสตางค์โชเฟอร์ ส่องกระบอกตั๋วกระเป๋ารถเมล์
คนขับรถเมล์และกระเป๋ารถเมล์ ผู้ที่มีหน้าที่รับส่งผู้โดยสารไปตามเส้นทางที่กำหนด และดูแลความปลอดภัยให้แก่ผู้โดยสารจนถึงจุดหมาย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่หาเช้ากินค่ำ มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินเหมือนๆ กันกับสายอาชีพในแขนงต่างๆ เพราะฉะนั้น พวกเขาเหล่านี้จึงใช้ความพยายามอย่างมากในการทำงาน มิหนำซ้ำยังต้องเข้าสู่การแข่งขันกับเพื่อนรวมอาชีพ เพื่อให้ได้มาซึ่งรายได้เลี้ยงปากท้อง
การนำรถเมล์มาขับแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ขับให้กับบริษัท และเช่าบริษัทขับ ในส่วนของลุงเสนาะ คนขับรถเมล์สาย 8 ท่านนี้ เลือกที่จะขับให้แก่บริษัท และกินเปอร์เซ็นต์จากรายได้ของแต่ละวัน ซึ่งแตกต่างจากการเช่าขับ ที่จะต้องเสียค่าเช่าให้แก่บริษัทวันละ 3,500 บาท
สาย 8 ครองแชมป์รถเมล์สุดเสียวตลอด เพราะเสียงร่ำร้องบ่นพึมพำจากผู้โดยสาร
เสนาะ ด้วงสำรวย คนขับรถเมล์สาย 8 เปิดเผยถึงรายได้ของเขาอย่างไม่ปิดบังว่า “คนขับรถร่วมอย่างผม จะไม่มีเงินเดือน ซึ่งแตกต่างจากคนขับรถเมล์ ขสมก. แต่ของผมจะได้เงินแบบกินเปอร์เซ็นต์ คือ ได้ร้อยละ 10 ส่วนกระเป๋าจะได้ร้อยละ 5 จากรายได้ทั้งหมดของแต่ละวัน โดยใน 1 วัน วิ่งตั้งแต่ตี 5 ถึง 4 ทุ่มจะวิ่งได้ประมาณ 4 เที่ยว ไปกลับแฮปปี้แลนด์-สะพานพุทธ ตกอยู่ที่รอบละ 3 ชั่วโมงครึ่ง รายได้รวมจากค่าโดยสารอยู่ที่ 4,000-5,000 บาทต่อวัน ดังนั้น รายได้ต่อวันของคนขับตกยู่ที่ 400-500 บาทต่อวัน ส่วนกระเป๋ารถเมล์ อยู่ที่ประมาณ 200-250 บาทต่อวัน นอกเหนือจากรายได้ในส่วนนี้ก็จะเป็นเบี้ยเลี้ยงที่ทางบริษัทเป็นผู้จ่ายให้ทุกวัน คนขับได้ 120 กระเป๋าได้ 110 บาท ส่วนวันที่ทำรายได้มากที่สุดคือ 6,000 บาท มักจะเป็นช่วงเทศกาล เช่น ลอยกระทง, ปีใหม่”
“ถ้าถามว่า เป็นคนขับรถเมล์ อาชีพที่ต้องขับรถตั้งแต่เช้ามืดยันค่ำเหนื่อยไหม ตอบได้เลยว่า เหนื่อย แต่ก็ต้องทำ เพราะชีวิตต้องใช้สตางค์ บวกกับรถคันนี้ไม่ใช่รถแอร์ บางทีก็ร้อนจัดๆ ฝนตกหนักๆ เจอผู้โดยสารขี้เมา ชอบโวยวาย แต่เราก็ต้องทน” เสนาะ คนขับรถเมล์มากประสบการณ์กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง
เสนาะ คนขับรถเมล์สาย 8 ผู้มากประสบการณ์
“ก่นด่าคนขับเลวร้าย รู้ไหมผู้โดยสารแสนแย่ก็เยอะ...” จากใจกระเป๋ารถเมล์
เกศรินทร์ ด้วงสำรวจ กระเป๋ารถเมล์คู่ใจ และในฐานะภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากลุงเสนาะ โชเฟอร์ประจำรถเมล์สาย 8 เปิดอกเล่าเรื่องราวระหว่างผู้โดยสารกับกระเป๋ารถเมล์อย่างไม่ปิดบัง เธอเล่าว่า หลายคนอาจมองว่ากระเป๋ารถเมล์ กับคนขับรถเมล์นั้น จะต้องโหด ปากจัด มีพฤติกรรมแย่ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว กลับเป็นผู้โดยสารเสียเองที่มีพฤติกรรมแย่ๆ ใส่ผู้ให้บริการอย่างเธอเสมอ เธอยกตัวอย่างประสบการณ์มากมายให้ทีมข่าวฟัง
เริ่มต้นด้วย “ล้วงกระเป๋า” ประสบการณ์ประกอบอาชีพกระเป๋ารถเมล์มามากกว่า 10 ปี ทำให้เธอเจอเหตุการณ์ผู้โดยสารถูกล้วงกระเป๋ามาหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อผู้โดยสารเต็มแน่นขนัดทั้งคันรถ จึงง่ายต่อการกรีดกระเป๋า ล้วงเอาทรัพย์สิน แต่ทันทีที่ผู้โดยสารรู้ตัวว่า ทรัพย์สินหาย คนแรกที่จะโดนผู้โดยสารต่อว่าและกล่าวโทษ คือ กระเป๋ารถเมล์ ทั้งๆ ที่ตลอดเส้นทาง เธอก็ประกาศทุกระยะๆ ให้ผู้โดยสารระวังมิจฉาชีพ
แม้บางครั้งจะหวาดเสียวอยู่บ้าง แต่ก็เป็นของขาดไม่ได้สำหรับผู้โดยสารบางคน
ต่อมา คือเรื่อง “ลวนลาม” ปัญหานี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ผู้โดยสารหญิงบางคน บ้างก็โดนผู้โดยสารชายยืนชิดติดบั้นทาย จนสัมผัสกับมือหรืออวัยวะส่วนอื่นๆ ของผู้โดยสารชาย ทั้งๆ ที่ไม่จำเป็นต้องเบียดขนาดนั้น ผู้โดยสารชายบางคนบ้างก็ทำทีเป็นหลับไปซบผู้โดยสารหญิง บ้างก็เอามือไปวางไว้ข้างๆตัว เพื่อให้โดนขาอ่อนผู้โดยสารหญิง “ใช่แต่ว่าจะเกิดกับผู้โดยสารเพียงอย่างเดียว กระเป๋ารถเมล์ยังโดนลูบก้นเป็นประจำ” กระเป๋ารถเมล์สาย 8 เล่าอย่างเอือมระอา
ประสบการณ์ และเวลาทำให้เจอผู้โดยสารหลากหลายรูปแบบ
ตามมาติดๆด้วยเหตุการณ์ “ขี้เมาโวยวาย จรจัดไม่จ่ายสตางค์” โชเฟอร์และกระเป๋ารถเมล์สาย 8 พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สาย 8 นั้นอยู่ได้ เพราะแรงงานต่างด้าวจริงๆ หากจะให้เทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ผู้โดยสารระหว่างคนไทยกับต่างด้าว จะพอประมาณได้ว่า คนไทย 60% ต่างด้าว 40% เลยทีเดียว ซึ่งปัญหาที่จะพบได้บ่อยครั้งในกลุ่มแรงงานต่างด้าว คือ เมาสุรา โวยวาย ร้องเพลงเสียงดัง บางครั้งถึงกับนำกับแกล้มและสุรา ขึ้นมาตั้งวงกินบนรถ จนรบกวนผู้โดยสารท่านอื่น มากไปกว่านั้น คือ ย่านลาดพร้าว คนจรจัดจะมีจำนวนมาก คนพวกนี้ขี้เกียจเดิน จึงทำเนียนขึ้นรถเมล์แล้วไม่จ่ายเงิน ประมาณ 2-3 ป้ายก็จะลง พอไปเก็บค่าโดยสาร ก็จะทำทีโวยวายเสียงดัง
“อย่ามองแต่เรื่องร้ายๆ อย่ามองเราด้านเดียวเลย คนขับที่ดีก็มี คนไม่ดีเราก็ยอมรับว่ามีเหมือนกัน แต่ขอให้เข้าใจสักนิดเถอะว่า เราก็คนหาเช้ากินค่ำ เรามีลูก เรามีครอบครัว และเราก็มีหัวใจเหมือนพวกคุณนั่นแหละ” โชเฟอร์สาย 8 กล่าวจากเบื้องลึกของหัวใจ
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด